การดำเนินการจัดสอบคัดเลือกข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(สำนักงาน กสม.)

อาจารย์ผู้เขียน : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จันทจิรา เอี่ยมมยุรา
รายละเอียด :

หลักการและเหตุผล ด้วยมาตรา 257 (2) (3) และ (4) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 บัญญัติให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการรับคำร้องจากผู้ร้องเรียนหรือคำขอจากผู้เสียหาย กรณีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กรณีกฎ คำสั่ง หรือการกระทำอื่นใดในทางปกครองกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือกรณีการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นส่วนรวม เพื่อเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง หรือฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมแทนผู้เสียหาย ประกอบกับมติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในฐานะองค์กรกลางการบริหารงานบุคคล (ก.ส.) ครั้งที่ 8/255 เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2553 ได้เห็นชอบประกาศคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรื่องการแบ่งส่วนราชการภายในและกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2553 โดยได้จัดตั้งสำนักวินิจฉัยและคดีขึ้นใหม่ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการวินิจฉัยเงื่อนไขและมูลแห่งคดี การสืบสวนสอบสวน แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน จัดทำสำนวนและวินิจฉัย พร้อมเสนอความเห็นต่อ กสม. เพื่อพิจารณาเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง หรือฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมแทนผู้เสียหาย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะองค์กรกลางการบริหารงานบุคคล (ก.ส.) ได้กำหนดกรอบอัตรากำลังของสำนักวินิจฉัยและคดี และเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขัน การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ และรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตำแหน่งพนักงานคดี สังกัดสำนักวินิจฉัยและคดี และเนื่องจากผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสังกัดสำนักวินิจฉัยและคดีมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ ในฐานะบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวต้องมีศักยภาพและสมรรถนะสูงในวิชาชีพทางกฎหมาย จึงจำเป็นต้องสรรหาโดยวิธีการสอบแข่งขันที่เหมาะสม โดยมีหลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขันที่สามารถคัดกรองบุคลากรที่มีคุณสมบัติที่พึงประสงค์ได้ ซึ่งเห็นว่าการดำเนินการในการสอบแข่งขันดังกล่าว ควรดำเนินการโดยสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีการเรียนการสอนวิชานิติศาสตร์ระดับชั้นนำของประเทศ และมีประสบการณ์ในการจัดสอบแข่งขัน